เวไนยทั้งหลายเคยชินกับการกินเนื้อสัตว์เป็นเวลาพันหมื่นปีมาแล้ว เวียนว่ายไม่จบสิ้น ตราบใดหนี้กรรมยังชดใช้ไม่หมดก็จะต้องตกสู่วัฏฏะสังสารไปตลอดชั่วกาลนาน...
เมธีทุกท่านคงไม่มีใครรู้ว่าตนเองเมื่อชาติที่แล้วเคยเกิดเป็นเดรัจฉานมาหรือเปล่า เคยถูกกินมาแล้ว ใช่เหรือเปล่า ?...
มนุษย์โลกขณะที่ปากกำลังเคี้ยวเนื้ออย่างเอร็ดอร่อยไม่คิดว่า ชิ้นเนื้อในปากแลกมาด้วยความตายของหนึ่งชีวิต คนทั่วไปมักคิดไม่ถึง...
สัตว์ต้องตายอย่างน่าอนาถ ทำไมสัตว์เหล่านั้นถึงต้องมารับโทษทัณฑ์อย่างทารุณโหดร้ายที่มนุษย์หยิบยื่น...
ถึงแม้ชะตากรรมในชาตินี้ต้องเกิดกายได้ร่างเป็นสัตว์แต่มนุษย์ยังไปเพิ่มความเจ็บปวดให้กับสัตว์เหล่านั้น จนกระทั่งกรรมตามสนอง !...
พันหมื่นปีเวไนยเคยชินกับการกินเนื้อสัตว์ ยากตัดได้...
ในโลกนี้มีคนจำนวนมากยิดติดการกินเนื้อสัตว์เป็นสิ่งจำเป็น ไม่เชื่อว่าเป็นการประพฤติผิด แม้รู้ว่ากิจเนนั้นดี แต่กลับคิดว่าความอยากปากท้องสำคัญกว่า...
บางคนคิดว่าสัตว์เกิดมาเพื่อให้มนุษย์ใช้สอย สัตว์กินเนื้อสัตว์ได้ ทำไมคนจะกินเนื้อสัตว์ไม่ได้ เป็นความคิดที่เบาปัญญาของมนุษย์...
มนุษย์จะกินเนื้อสัตว์หรือสัตว์กินสัตว์ล้วนเป็นกฏแห่งกรรมทั้งสิ้น จะหยุดการเวียนว่ายต้องหยุดสร้างกรรม !...
กินเจเป็นการตัดกรรม หากในปากยังกินเลือดเนื้อสัตว์ยังเพิ่มความเกลียดชังเคียดแค้นแก่สัตว์ร่ำไป ภัยพิบัติและไอแห่งความแค้นไม่หยุดที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง...
แล้วโลกนี้จะเกิดสันติได้อย่างไร ? ...
ธรรมะจะเก็บงานสมบูรณ์ได้อย่างไร ?...
ธรรมญาณจะกลับคืนเบื้องบนได้อย่างไร ?...
คนที่กายใจสะอาดบริสุทธิ์อย่างแท้จริงจะต้องไม่บริโภคเนื้อสัตว์ และไม่พูดมักง่ายตามใจปาก ไม่พูดนินทาว่าร้าย ไม่พูดคำโกหกหลอกลวง..
โลกกำลังประสบภาวะคับขัน ความเคียดแค้นของสัตว์ทำให้เกิดภัยพิบัติทั่วโลก ยิ่งมาก็ยิ่งมาก...
โรคภัยไข้เจ็บในตัว โรคแปลกๆ นับวันก็ยิ่งมาก เพราะว่าไอแห่งความแค้นไม่อาจลบล้างได้...
คนทั่วไปไม่เกรงกลังบาปกรรม สร้างกันไม่หยุดหย่อน ฆ่ากันทำร้ายกัน ถึงแม้การกินเนื้อสัตว์มิใช่การฆ่าโดยตรง แต่บาปกรรมที่ก่อขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งคือคนฆ่า อีกส่วนหนึ่งคนกินต้องแบกรับ นี่คือการเกิดขึ้นของกรรมร่วม...
ดังนั้น ขณะเจ้ากรรมนายเวรทวงหนี้ แม้จะอยู่ต่างสถานที่กัน ไม่รู้จักกัน แต่ต้องมารับกรรมร่วมกัน รับผลกรรมสนองด้วยกัน นี่คือ กรรมร่วมของการทวงหนี้ !...
พันหมื่นปีที่เวไนยกินเนื้อสัตว์ ทำให้เกิดหนี้กรรมทับถมดั่งทะเล แต่ความอาฆาตแค้นของสัตว์นั้นสูงเทียมฟ้า จึงเป็นเหตุให้เกิดกฎแห่งกรรมมิจบสิ้น..
เมธีทุกท่านคงไม่มีใครรู้ว่าตนเองเมื่อชาติที่แล้วเคยเกิดเป็นเดรัจฉานมาหรือเปล่า เคยถูกกินมาแล้ว ใช่เหรือเปล่า ?...
มนุษย์โลกขณะที่ปากกำลังเคี้ยวเนื้ออย่างเอร็ดอร่อยไม่คิดว่า ชิ้นเนื้อในปากแลกมาด้วยความตายของหนึ่งชีวิต คนทั่วไปมักคิดไม่ถึง...
สัตว์ต้องตายอย่างน่าอนาถ ทำไมสัตว์เหล่านั้นถึงต้องมารับโทษทัณฑ์อย่างทารุณโหดร้ายที่มนุษย์หยิบยื่น...
ถึงแม้ชะตากรรมในชาตินี้ต้องเกิดกายได้ร่างเป็นสัตว์แต่มนุษย์ยังไปเพิ่มความเจ็บปวดให้กับสัตว์เหล่านั้น จนกระทั่งกรรมตามสนอง !...
พันหมื่นปีเวไนยเคยชินกับการกินเนื้อสัตว์ ยากตัดได้...
ในโลกนี้มีคนจำนวนมากยิดติดการกินเนื้อสัตว์เป็นสิ่งจำเป็น ไม่เชื่อว่าเป็นการประพฤติผิด แม้รู้ว่ากิจเนนั้นดี แต่กลับคิดว่าความอยากปากท้องสำคัญกว่า...
บางคนคิดว่าสัตว์เกิดมาเพื่อให้มนุษย์ใช้สอย สัตว์กินเนื้อสัตว์ได้ ทำไมคนจะกินเนื้อสัตว์ไม่ได้ เป็นความคิดที่เบาปัญญาของมนุษย์...
มนุษย์จะกินเนื้อสัตว์หรือสัตว์กินสัตว์ล้วนเป็นกฏแห่งกรรมทั้งสิ้น จะหยุดการเวียนว่ายต้องหยุดสร้างกรรม !...
กินเจเป็นการตัดกรรม หากในปากยังกินเลือดเนื้อสัตว์ยังเพิ่มความเกลียดชังเคียดแค้นแก่สัตว์ร่ำไป ภัยพิบัติและไอแห่งความแค้นไม่หยุดที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง...
แล้วโลกนี้จะเกิดสันติได้อย่างไร ? ...
ธรรมะจะเก็บงานสมบูรณ์ได้อย่างไร ?...
ธรรมญาณจะกลับคืนเบื้องบนได้อย่างไร ?...
คนที่กายใจสะอาดบริสุทธิ์อย่างแท้จริงจะต้องไม่บริโภคเนื้อสัตว์ และไม่พูดมักง่ายตามใจปาก ไม่พูดนินทาว่าร้าย ไม่พูดคำโกหกหลอกลวง..
โลกกำลังประสบภาวะคับขัน ความเคียดแค้นของสัตว์ทำให้เกิดภัยพิบัติทั่วโลก ยิ่งมาก็ยิ่งมาก...
โรคภัยไข้เจ็บในตัว โรคแปลกๆ นับวันก็ยิ่งมาก เพราะว่าไอแห่งความแค้นไม่อาจลบล้างได้...
คนทั่วไปไม่เกรงกลังบาปกรรม สร้างกันไม่หยุดหย่อน ฆ่ากันทำร้ายกัน ถึงแม้การกินเนื้อสัตว์มิใช่การฆ่าโดยตรง แต่บาปกรรมที่ก่อขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งคือคนฆ่า อีกส่วนหนึ่งคนกินต้องแบกรับ นี่คือการเกิดขึ้นของกรรมร่วม...
ดังนั้น ขณะเจ้ากรรมนายเวรทวงหนี้ แม้จะอยู่ต่างสถานที่กัน ไม่รู้จักกัน แต่ต้องมารับกรรมร่วมกัน รับผลกรรมสนองด้วยกัน นี่คือ กรรมร่วมของการทวงหนี้ !...
พันหมื่นปีที่เวไนยกินเนื้อสัตว์ ทำให้เกิดหนี้กรรมทับถมดั่งทะเล แต่ความอาฆาตแค้นของสัตว์นั้นสูงเทียมฟ้า จึงเป็นเหตุให้เกิดกฎแห่งกรรมมิจบสิ้น..
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น