ข่าวใหญ่ในรอบปีกับการพบศพทารก 2,002 ศพ ที่ถูกซุกไว้ในโกดังเก็บศพ ภายในวัดไผ่เงิน ย่านบางคอแหลม กรุงเทพฯ..
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึง ปัญหาอันฟอนเฟะของสังคมไทย ได้เป็นอย่างดี ทั้งสลดใจและสยอดสยอง !...
จุดเริ่มของคดีเกิดขึ้นเมื่อชาวบ้านผ่านไปพบถุงพลาสติกทิ้งไว้หน้าโกดังเก็บศพวัดไผ่เงินฯ หลังจากมีสุนัขคาบออกมา เมื่อเปิดถุงดูก็ถึงกับผงะเมื่อพบว่าในนั้นเป็นศพเด็กทารกแรกเกิดซุกอยู่ เจ้าหน้าที่ตรงเข้าค้นในโกดังเก็บศพช่องที่ 17 ซึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา ประตูเปิดอ้าอยู่ มีคราบเลือด คราบน้ำเหลืองไหลเยิ้ม ทุกคนถึงกับผงะเมื่อพบว่าในช่องเก็บศพมีถุงพลาสติกกองพะเนินเทินทึกนับได้ 250 ถุง ในนั้นมีทั้งซากทารกที่สมบูรณ์ ชิ้นเนื้อ ก้อนเนื้อ ก้อนเลือด ไปยันกระโหลกอ่อนทารก ซากที่สมบูรณ์อายุประมาณ 6-7 เดือน..
สัปเหร่ ยอมรับว่าเป็นคนเอาศพเด็กเหล่านี้มาซุกไว้จริงก่อนหน้านี้ทยอยเผาไปแล้วบางส่วน หาจังหวะตอนปลอดคนบ้าง กลางคืนบ้าง แต่ปรากฏว่า ช่วงหลังเมรุที่วัดเสียเลยไม่ได้เผา จึงซุกศพเอาไว้จนเน่าคาโกดัง โดยศพทารกเหล่านี้รับมาจากคลินิกทำแท้งหลายแห่ง ได้ค่าจ้างศพละประมาณ 200-300 บาท สุดแล้วแต่ว่าทางคลินิกจะเอามาส่งหรือให้ไปรับก็พร้อมบริการ...
หลังจากนั้นสัปเหร่อยอมเปิดปากเล่าอะไรมากขึ้น ระบุว่านอกจาก 348 ศพที่พบแล้ว ยังมีศพเด็กอีกนับพันซุกซ่อนไว้ในโกดังเดียวกัน ทำแบบนี้มานานกว่า 6 ปีแล้ว เก็บจนไม่มีที่จะเก็บ ซึ่งการซุกศพทารกไว้แบบนี้ สัปเหร่อบอกว่าแนบเนียนมาก เพราะไม่มีใครคอยสังเกตและกล้าเข้าไปดู เพราะโกดังเก็บศพก็เหม็นกลิ่นศพพอตัวอยู่แล้ว ไหนจะยังมีเรื่องเล่าผีๆ สางๆ ยิ่งไม่มีใครกล้าเข้าไปวุ่นวาย
แต่แล้วความก็มาแตกจนได้ !...ตำรวจยกโขยงไปพิสูจน์ความจริงในทันใด เมื่อไปถึงพบว่าที่ช่องเก็บศพมีสนิมเกาะเกรอะกรัง เมื่อเปิดประตูออกทุกคนถึงกับเบนหน้าหนี เมื่อพบถุงพลาสติกหลากสีซุกซ่อนอยู่นับพันถุงเบียดเสียดยัดเยียดกันอยู่ในนั้น แกะมานับรวมกันแล้วพบศพทารกถึง 1,656 ศพ รวมของเก่า 348 ศพ ยอดพุ่งทะลุเกิน 2,000...
เหตุการณ์ครั้งนี้สะท้อนถึง ปัญหาอันฟอนเฟะของสังคมไทย ได้เป็นอย่างดี ทั้งสลดใจและสยอดสยอง !...
จุดเริ่มของคดีเกิดขึ้นเมื่อชาวบ้านผ่านไปพบถุงพลาสติกทิ้งไว้หน้าโกดังเก็บศพวัดไผ่เงินฯ หลังจากมีสุนัขคาบออกมา เมื่อเปิดถุงดูก็ถึงกับผงะเมื่อพบว่าในนั้นเป็นศพเด็กทารกแรกเกิดซุกอยู่ เจ้าหน้าที่ตรงเข้าค้นในโกดังเก็บศพช่องที่ 17 ซึ่งมีกลิ่นเหม็นเน่าโชยออกมา ประตูเปิดอ้าอยู่ มีคราบเลือด คราบน้ำเหลืองไหลเยิ้ม ทุกคนถึงกับผงะเมื่อพบว่าในช่องเก็บศพมีถุงพลาสติกกองพะเนินเทินทึกนับได้ 250 ถุง ในนั้นมีทั้งซากทารกที่สมบูรณ์ ชิ้นเนื้อ ก้อนเนื้อ ก้อนเลือด ไปยันกระโหลกอ่อนทารก ซากที่สมบูรณ์อายุประมาณ 6-7 เดือน..
สัปเหร่ ยอมรับว่าเป็นคนเอาศพเด็กเหล่านี้มาซุกไว้จริงก่อนหน้านี้ทยอยเผาไปแล้วบางส่วน หาจังหวะตอนปลอดคนบ้าง กลางคืนบ้าง แต่ปรากฏว่า ช่วงหลังเมรุที่วัดเสียเลยไม่ได้เผา จึงซุกศพเอาไว้จนเน่าคาโกดัง โดยศพทารกเหล่านี้รับมาจากคลินิกทำแท้งหลายแห่ง ได้ค่าจ้างศพละประมาณ 200-300 บาท สุดแล้วแต่ว่าทางคลินิกจะเอามาส่งหรือให้ไปรับก็พร้อมบริการ...
หลังจากนั้นสัปเหร่อยอมเปิดปากเล่าอะไรมากขึ้น ระบุว่านอกจาก 348 ศพที่พบแล้ว ยังมีศพเด็กอีกนับพันซุกซ่อนไว้ในโกดังเดียวกัน ทำแบบนี้มานานกว่า 6 ปีแล้ว เก็บจนไม่มีที่จะเก็บ ซึ่งการซุกศพทารกไว้แบบนี้ สัปเหร่อบอกว่าแนบเนียนมาก เพราะไม่มีใครคอยสังเกตและกล้าเข้าไปดู เพราะโกดังเก็บศพก็เหม็นกลิ่นศพพอตัวอยู่แล้ว ไหนจะยังมีเรื่องเล่าผีๆ สางๆ ยิ่งไม่มีใครกล้าเข้าไปวุ่นวาย
แต่แล้วความก็มาแตกจนได้ !...ตำรวจยกโขยงไปพิสูจน์ความจริงในทันใด เมื่อไปถึงพบว่าที่ช่องเก็บศพมีสนิมเกาะเกรอะกรัง เมื่อเปิดประตูออกทุกคนถึงกับเบนหน้าหนี เมื่อพบถุงพลาสติกหลากสีซุกซ่อนอยู่นับพันถุงเบียดเสียดยัดเยียดกันอยู่ในนั้น แกะมานับรวมกันแล้วพบศพทารกถึง 1,656 ศพ รวมของเก่า 348 ศพ ยอดพุ่งทะลุเกิน 2,000...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น