วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2554

สาเหตุการเสียชีวิตของคนไทย

          สาเหตุการเสียชีวิตที่สูงสุด 10 อันดับแรก เกิดจากโรคร้ายต่างๆ รวมถึงการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ....

1.  มะเร็ง  และเนื้องอกทุกชนิด
2.  อุบัติเหตุ
3.  โรคหลอดเลือดในสมอง  และความดันเลือดสูง
4.  โรคหัวใจ
5.  ปอดอักเสบ
6.  โรคเกี่ยวกับไต
7.  โรคเกี่ยวกับตับ และตับอ่อน
8.  โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องเนื่องจากไวรัส
9.  การบาดเจ็บจากการฆ่าตัวตาย ถูกฆ่าตาย
10.  วัณโรคทุกชนิด

             ความแค้นของสัตว์เดรัจฉานยากจะสงบ  ผลประกฎให้เห็นในโลกนี้คือ น้ำท่วม..พายุ.. แผ่นดินไหว... อุบัติเหตุยานพาหนะ.. โรคที่รักษาไม่หาย..
             ปัจจุบันมนุษย์มีวิธีการกินเนื้อสัตว์พิสดารมากขึ้น  ดังนั้นโรคภัยไข้เจ็บยิ่งปรากฎก็ยิ่งแปลกประหลาด..
              โรคแปลกๆ ที่เกิดขึ้นแม้แต่แพทย์ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาด  ผู้ป่วยต้องรับทุกข์ทรมานแสนสาหัส  เหตุเพราะมนุษย์ก่อกรรมทำเข็ญขึ้นมาเองทั้งสิ้น...
              คนสมัยนี้ไม่สนใจเรื่องกฎแห่งกรรม ปล่อยชีวติตามกระแสให้เวียนเกิดเวียนตายไม่มีสิ้นสุดโดยไม่คิดที่จะแสวงหาทางหลุดพ้นการเวียนว่าย ไม่เพียงแต่มนุษย์เท่านั้น  สัตว์เดรัจฉานก็เช่นกัน  ทำอย่างไรจึงจะหลุดพ้นจากกายเดรัจฉาน  ช่างน่าเวทนาเสียจริง...
             นอกจากตัวเราไม่รับประทานเนื้อสัตว์แล้ว  ต้องตักเตือนขอร้องอย่าให้คนอื่นรับประทานเนื้อสัตว์  ในโลกนี้ยังมีคนอีกมากที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์...

            1.  อาชีพเลี้ยงสัตว์เพื่อส่งไปฆ่า..
            2.  อาชีพฆ่าสัตว์...
            3.  อาชีพขายปลา  ขายเนื้อสัตว์
            4.  อาชีพค้าส่งค้าปลีกเนื้อสัตว์ในตลาดและหุ้นส่วน
            5.  อาชีพเปิดร้านอาหารและภัตตาคาร ล้วนใช้เนื้อสัตว์ปรุงอาหาร ทั้งเจ้าของร้าน หุ้นส่วน พ่อครัว แม่ครัว คนเสิร์ฟอาหาร คนล้างจาน  คนงาน...
            6.  อาชีพขนส่ง รับจัดการขนย้ายสัตว์ไปโรงฆ่าหรือส่งเนื้อที่ฆ่าแล้วไปตลาด... อาชีพดังกล่าว  เกี่ยวกับการฆ่าทั้งสิ้น  เพราะเป็นเหตุให้สัตว์เหล่านั้นต้องตาย...
            บางคนยังไม่เคยประสบกับเคราะห์ร้าย จึงไม่เชื่อเรื่อง  กรรมตามสนอง !..   กรรมตามสนองหากไม่ปรากฎแก่ตัวเราต้องป่วยเป็นโรค ก็จะต้องตกเป็นภัยแก่ลูกหลาน ตายไปยิ่งน่าสงสารเพราะโทษกรรมที่ได้รับยิ่งร้ายแรงกว่า...
            ตายไปแล้วเป็นวิญญาณ  เมื่อนั้นคิดที่จะให้ใครช่วยหรือขอความช่วยเหลือจากลูกหลานยิ่งยาก
เพระว่า  ตอนนั้นอยู่ในโลกแห่งวัญญาณ !..
            เสียงร้องขอความช่วยเหลือใครบ้างจะได้ยิน ลูกหลานไม่ได้ยิน จะเข้าฝันต้องมีบุญกุศลจึงเข้าฝันได้...    โอกาสเช่นนี้มิใช่จะได้ง่ายๆ ดังนั้น เมื่อตายแล้ววิญญาณต้องไปรับทุกข์เวทนาอย่างน่าสงสาร
            โลกวิญญาณตลอดเวลาต่างรอคอย..
             รอคอยว่า...เมื่อไหร่จะได้กลับตัวอีกครั้ง !...
             รอคอยว่า...วันไหนจะได้แก้ไขอีกครั้ง !...
             รอคอยว่า...เมื่อไหร่ลูกหลานจะแผ่ส่วนบุญไปให้  !...
             เพราะว่าโลกวิญญาณยากที่จะช่วยจิตวิญญาณของตนเองได้ คิดที่จะสร้างบุญกุศลจะต้องอาศัยบุญสัมพันธฺ บางวิญญาณหรือเทวดาที่โชคดีสร้างบุญกุศลโดยดลจิตใจให้คนทำความดี ช่วยคนให้รอดพ้นจากเคราะห์ร้าย...
             แต่  นรก เปรต อสูร เดรัจฉาน  เหล่านี้คิดที่จะขอส่วนบุญยังยากยิ่ง  มนุษย์ในโลกยากที่จะเข้าใจพวกเขาเหล่านั้น ยากที่จะเข้าใจทุกข์เวทนาของพวกเขา !...
             เมธีทั้งหลาย  เคยอุทิศบุญกุศลให้แก่สรรพสัตว์บ้างหรือไม่  เกิดมาชาตินี้เคยกินเนื้อเขา  ถ้าเรากิจเจมาตั้งแต่อยู่ในท้องอย่างนั้นก็ไม่ต้องอุทิศ เพราะไม่ได้ก่อกรรมในชาตินี้ แต่ในอดีตชาติล่ะ  ไม่เคยกินเนื้อสัตว์เลยหรือ ?...
             หนี้กรรมที่ติดตามเรามา ในชาตินี้ก็จะต้องอุทิศบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติที่เรากินเนื้อเขา  เป็นการลบล้างหนี้กรรมและป้องกันเจ้ากรรมนายเวรตามราวีอันเป็นสาเหตุของอุปสรรคในชีวิต...
             หากเจ้ากรรมนายเวรตามทวง  สถานเบาก็เจ็บป่วย  ถ้าหนักก็เสียชีวิต !...  ชาตินี้หากไม่เร่งชดใช้กรรม แล้วอีกเมื่อไหร่จึงจะหมดสิ้น...
             ต้องอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลชดใช้กรรม  นี่คือเบื้องบนให้โอกาสครั้งยิ่งใหญ่ ผู้บำเพ็ญธรรมจะต้องมีความมุ่งมั่น...
             เรากษิติครรภโพธิสัตว์อยู่ในยมโลกได้รับฎีกาอุทิศเพื่อขอลบล้างหนี้กรรมก็มาก  ขอให้เมธีทุกท่านพึงระวังและจดจำไว้ว่ายังมีหนี้กรรมเก่าที่ยังไม่ได้ชดใช้ จะต้องอุทิศแผ่ส่วนบุญอยู่เสมอเพราะในอดีตชาติเราได้ก่อกรรมทำเข็ญไว้เมื่อไหร่ไม่รู้นอกจากกินเนื้อสัตว์แล้วยังทำร้ายชีวิตเขาอีกจะชดใช้อย่างไร..
            ดังนั้น จะต้องบังเกิดจิตสำนึกอยู่ทุกขณะ สำนึกขอขมาต่อความผิดที่กระทำไว้ในอดีต และสำนึกขอขมาต่อความผิดที่กระทำไว้ในชาตินี้...

ท่อง  "สัพเพสัตตา" มาแต่ไหน                              ยังเข้าใจในเนื้อแท้แค่ผิวเผิน
ยังฆ่าบ้างกินบ้างอย่างเพลิดเพลิน                        ยังใช้เงินซื้อชีวิตอนิจจา
สัตว์เกิดกายมาใช้กรรมที่ทำไว้                              เป็นเป็ดไก่กุ้งปลาและหมูหมา
ตามเหตุต้นผลกรรมที่ทำมา                                  มิใช่ฟ้าประทานมาให้คนกิน
มีปัญญาแต่ไฉนจึงไม่คิด                                       มองชีวิตกลับเห็นเป็นทรัพย์สิน
เสียงกรีดร้องก่อนตายใครได้ยิน                            น้ำตารินเมื่อถูกเชือดเลือดกระเซ็น
พูดว่าเขาเกิดมาเป็นอาหาร                                    เขาลนลานหนีตายใครมองเห็น
เขาจนใจพูดไม่ได้เถียงไม่เป็น                               ช่างเลือดเย็นเข่นฆ่าไม่ปรานี

           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น