ภัยที่ใหญ่ที่สุดคือ การเวียนว่ายตายเกิด !...
เวไนยทั้งหลาย ทุกภพทุกชาติต้องผจญกับภัยพิบัติ...
มีใครบ้างที่เกิดมาในโลกนี้ไม่เคยได้รับเคราะห์กรรมใดๆ เลย
เรามักได้ยินข่าวร้ายบ่อยๆ คนนั้นถูกรถชนตาย คนนี้เป็นโรคนั้น คนนั้นเป็นโรคนี้ หรือเพื่อนของเราประสบอุบัติเหตุ ที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นภัยพิบัติทั้งสิ้น...
อันว่าภัยพิบัติใช่เพียงแต่การได้รับความทุกข์เข็ญลำบากใจ ความเจ็บไข้ได้ป่วยทางกายสังขารเท่านั้น ภัยพิบัติที่แท้จริงคือ การที่วิญญาณต้องออกไปเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสังสาร...
นี่เป็นสิ่งที่พวกเจ้าน่าจะกังวลมากที่สุด เพราะเป็นภัยพิบัติที่ใหญ่ที่สุด !...
ฉะนั้น การหยุดวัฎจักรแห่งการเกิดตายถึงจะเป็นการหลุดพ้นจากภัยพิบัติที่แท้จริง..
ด้วยเหตุนี้ ฟ้าเบื้องบนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจึงคอยเตือน ให้รีบเร่งสร้างบุญกุศล..ชดใช้หนี้กรรม...เจริญปณิธาน... เป็นการผ่อนผันหนี้กรรมเก่า เร่งฉุดช่วยเวไนยขึ้นธรรมนาวา ให้พวกเขามาปฏิบัติธรรมซึ่งเป็นหนทางแห่งการหลุดพ้นจากวัฏฏะสังสาร ไม่ต้องกลับมารับทุกข์ทรมานจากภัยพิบัติอีกต่อไป...
เหตุเพราะเวไนยยังมีหนี้กรรมเก่าที่ยังไม่ได้ชำระ ตราบใดที่ยังคงเวียนว่ายในวัฏฏะสังสารภัยพิบัติก็ยังไม่หมดสิ้น เพราะเหตุใดเล่า ? เพราะกฎแห่งกรรม !...
สาเหตุของภัยพิบัติทั้งหลายล้วนมาจาก "กรรม"
ฉะนั้น พวกเจ้าอยากจะรอดพ้นจากภัยพิบัติไหม อยากจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไหม ?...(อยาก)
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องบำเพ็ญธรรม !...
ไม่ต้องพูดมาก พูดมากก็รังแต่จะหาความทกข์ใส่ตัว พระวิสุทธิอาจารย์ได้ชี้หนทางให้แล้ว แต่การปฏิบัตินั้นอยู่ที่ตัวเจ้าของ...
เงินทองกาเมไม่บริสุทธิ์ไซร้
พูดไปก็ไร้ประโยชน์
คำติฉินนินทา เป็นข้ออ้างที่จะเอาชนะ
คำโกหก เป็นรากเหง้าแห่งภัยพิบัติ
คำใส่ร้ายป้ายสี เป็นการทดสอบจริง-เท็จในการบำเพ็ญ
คำส่อเสียดเหยียดหยาม เป็นแรงเสริมสร้างขันติในจิตใจ
คำด่าว่าหยายคาย เปรียบมีดดาบแหลมคมทิ่มแทงจิตใจ
คำสุภาพอ่อนโยน ชโลมจิตใจให้บานสะพรั่งดั่งลมฝนในฤดูใบไม้ผลิ
คำชี้แนะในพระวจนะ เป็นแสงแห่งปัญญาแก่เวไนย์ทั้งหลาย
คำที่ประเสริฐล้ำค่า ควรแก่การจดจำจารึกไว้ในใจตลอดกาล
เวไนยทั้งหลาย ทุกภพทุกชาติต้องผจญกับภัยพิบัติ...
มีใครบ้างที่เกิดมาในโลกนี้ไม่เคยได้รับเคราะห์กรรมใดๆ เลย
เรามักได้ยินข่าวร้ายบ่อยๆ คนนั้นถูกรถชนตาย คนนี้เป็นโรคนั้น คนนั้นเป็นโรคนี้ หรือเพื่อนของเราประสบอุบัติเหตุ ที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นภัยพิบัติทั้งสิ้น...
อันว่าภัยพิบัติใช่เพียงแต่การได้รับความทุกข์เข็ญลำบากใจ ความเจ็บไข้ได้ป่วยทางกายสังขารเท่านั้น ภัยพิบัติที่แท้จริงคือ การที่วิญญาณต้องออกไปเวียนว่ายตายเกิดในวัฏฏะสังสาร...
นี่เป็นสิ่งที่พวกเจ้าน่าจะกังวลมากที่สุด เพราะเป็นภัยพิบัติที่ใหญ่ที่สุด !...
ฉะนั้น การหยุดวัฎจักรแห่งการเกิดตายถึงจะเป็นการหลุดพ้นจากภัยพิบัติที่แท้จริง..
ด้วยเหตุนี้ ฟ้าเบื้องบนและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจึงคอยเตือน ให้รีบเร่งสร้างบุญกุศล..ชดใช้หนี้กรรม...เจริญปณิธาน... เป็นการผ่อนผันหนี้กรรมเก่า เร่งฉุดช่วยเวไนยขึ้นธรรมนาวา ให้พวกเขามาปฏิบัติธรรมซึ่งเป็นหนทางแห่งการหลุดพ้นจากวัฏฏะสังสาร ไม่ต้องกลับมารับทุกข์ทรมานจากภัยพิบัติอีกต่อไป...
เหตุเพราะเวไนยยังมีหนี้กรรมเก่าที่ยังไม่ได้ชำระ ตราบใดที่ยังคงเวียนว่ายในวัฏฏะสังสารภัยพิบัติก็ยังไม่หมดสิ้น เพราะเหตุใดเล่า ? เพราะกฎแห่งกรรม !...
สาเหตุของภัยพิบัติทั้งหลายล้วนมาจาก "กรรม"
ฉะนั้น พวกเจ้าอยากจะรอดพ้นจากภัยพิบัติไหม อยากจะหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดไหม ?...(อยาก)
ถ้าอย่างนั้นก็ต้องบำเพ็ญธรรม !...
ไม่ต้องพูดมาก พูดมากก็รังแต่จะหาความทกข์ใส่ตัว พระวิสุทธิอาจารย์ได้ชี้หนทางให้แล้ว แต่การปฏิบัตินั้นอยู่ที่ตัวเจ้าของ...
เงินทองกาเมไม่บริสุทธิ์ไซร้
พูดไปก็ไร้ประโยชน์
คำติฉินนินทา เป็นข้ออ้างที่จะเอาชนะ
คำโกหก เป็นรากเหง้าแห่งภัยพิบัติ
คำใส่ร้ายป้ายสี เป็นการทดสอบจริง-เท็จในการบำเพ็ญ
คำส่อเสียดเหยียดหยาม เป็นแรงเสริมสร้างขันติในจิตใจ
คำด่าว่าหยายคาย เปรียบมีดดาบแหลมคมทิ่มแทงจิตใจ
คำสุภาพอ่อนโยน ชโลมจิตใจให้บานสะพรั่งดั่งลมฝนในฤดูใบไม้ผลิ
คำชี้แนะในพระวจนะ เป็นแสงแห่งปัญญาแก่เวไนย์ทั้งหลาย
คำที่ประเสริฐล้ำค่า ควรแก่การจดจำจารึกไว้ในใจตลอดกาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น