วันเสาร์ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2554

คำสารภาพวิญญาณบาปจาก มหานครอเวจี

ท้าวอเวจีฯ :   บังอาจ !  เราให้เจ้ามาเป็นประจักษ์หลักฐาน กำแหงยิ่งนัก เอาโต๊ะและเต้าผาวมาเราจะว่าความ...
                ที่สาธุชนทั้งหลายเห็นนี่คือ วิญญาณบาปหนาจากมหานรกอเวจี !.. ซึ่งเราให้มาเป็นประจักษ์หลักฐานในวันนี้ เจ้าจงฟังคำเรา จงพูดเรื่องราวการทำบาปของตนเองให้สาธุชนทั้งหลายฟัง เล่าดีดี อย่าได้ผิดพุทธระเบียบเป็นอันขาด..

วิญญาณบาป :  กูเป็นคนชลบุรี กูตายเมื่อสิบปีที่แล้ว..พวกมึกรู้ไหมว่ากูตายอย่างไร กูตายอย่างทรมาน กูเกลียดมัน กูจะฆ่ามัน !..  พวกมันฆ่ากูอย่างทรมาน  มันตัดหัวกู หั่นหัวกู หั่นแขนกู ขากู แล้วพวกมันก็เอากูไปใส่เครื่องบดหมู..
                บดจนละเอียด แล้วพวกมันก็เอาเนื้อกูไปให้จระเข้กิน เป็นจระเข้ที่กูเลี้ยงไว้ !..พวกมันเลว กูจะมาทวงพวกมัน พวกมึงก็เหมือนกันเลวเหมือนกู  กูไม่เคยเชื่อเลยว่าเรื่องบาปกรรมมีจริง กูไม่เชื่อเลย
กูทำมาหมดทุกอย่าง บาปกรรมที่ว่าเลวแค่ไหน กูก็ทำมาหมด !.. กูค้ายาเสพติด ตั้งแต่ยาบ้า เฮโลอีน ฮ่าๆๆ  สมน้ำหน้า สมน้ำหน้าพวกมัน พวกมันโง่เอง โง่จนครอบครัวแตกแยก พ่อแม่ลูกทะเลาะแบะแว้งกันเพราะยาเสพติด.. พวกมันโง่ ๆๆๆ..
               กูยังเปิดบ่อน เปิดซ่องเล็กซ่องใหญ่....
               ผู้หญิงสาวๆ มันถูกพวกกูหลอกเอาหมด มันถูกหลอกเพราะความโง่ของพวกมันเอง สุดท้ายมันก็ต้องตกเป็นเหยื่อกามารมณ์ ให้พวกผู้ชายที่มันบ้ากาม  แต่พวกมันก็ยังหน้าโง่..
                บางคนไม่ยอมก็ถูกข่มขืน ใครที่หนีก็ถูกฆ่าตาย...
                กูให้สมุนกูฆ่ามันให้หมดเลย แล้วโยนลงบ่อจระเข้ พวกมึงระวังตัวให้ดี พวกผู้หญิงสวยๆ ระวังไว้ให้ดี !...
                แล้วกูยังเปิดบ่อนการพนัน  ไอ้พวกที่ชอบเล่นการพนันพวกมันก็โง่เหมือนกัน...
ทรัพย์สินเงินทองที่พวกมันมี ก็หลงอยู่กับการพนันกับบ่อนที่พวกกูเปิดอยู่ พวกมึงโง่ทั้งนั้นแหละ ใช่ไหม ?... แล้วกูยังเลี้ยงบ่อจระเข้ เอาเนื้อเอาหนังจระเข้ไปขาย...
                รู้ไหมว่าได้เงินดีมาก เอาหนังไปทำกระเป๋ารองเท้า ได้เงินเป็นแสนเป็นล้าน หนังมัน เนื้อมันอร่อย เหมาะกับไอ้พวกที่ชอบเปิผพิสดาร..กูเลวไหม !..
                อย่าคิดนะว่าพวกมึงจะรอด !..
                พวกมึงก็เลวเหมือนกับกูนั่นแหล่ะ !..  สำนึกเหรอ สำนึกได้ก็แค่ชั่วคราว สักพักก็กลับไปเลวอีก ฮ่าๆๆๆ...
                ยายกูบอกว่า กูเป็นสัตว์นรกมาเกิด แต่กูไม่เชื่อ !...
                กูไม่เคยทำบุญ กูเห็นพระสงฆ์ กูก็ว่ามันเป็นขอทาน ไม่มีจะกิน ขอชาวบ้านกิน...
                พ่อแม่กูเป็นอัมพาต กูเห็นพ่อแม่กูเป็นอัมพาต ด้วยความที่กูเกลียดพ่อแม่ กูก็เลยเอายาพิษให้พ่อแม่กูกิน  เพื่อไม่ให้เป็นภาระกูอีกต่อไป..
                กูมันเลว !..ฮือๆๆๆ
                สุดท้าย กูไม่คิดว่าชีวิตกูจะสั้นขนาดนี้ กูตายไปสิบปีที่แล้วตายตอนอายุ 53 ปี กูไม่เคยคิดเลยว่ากูตายปแล้วจะตกนรก ต้องไปชดใช้กรรมที่สร้าง...ฮือๆๆ
                ตอนนี้กูอยู่ในนรกที่ร้ายแรงที่สุด ที่เรียกว่า  นรกอเวจี...
                ตอนนี้กูรู้แล้วว่าบาปกรรมมีจริง แต่ตอนนี้รู้สำนึกก็สายไปเสียแล้ว ตอนนี้ต้องไปรับโทษรับเวร
                พวกมึงก็เหมือนกัน พวกมึงก็กินกู พวกมึงก็ฆ่ากู!...
                กูเคยเกิดเป็นวัว เป็นควายชดใช้กรรม กูเคยเกิดเป็นตัวเหี้ย โดนคนเขาถลกหนังมากิน...
                กูกลัว กูไม่อยากไปแล้ว กูไม่อยากไปนรกแล้ว !...
                พวกมึงอย่าคิดว่านรกไม่มีจริง กูไม่เคยรู้มาก่อนว่านรกมันมี  มันน่ากลัวขนาดไหน...
                ตอนที่มีชีวิตอยู่ กูสุขสบายทุกอย่าง ไม่เคยทุกข์ร้อนอะไร กูเป็นถึงเจ้าพ่อเมืองชล พวกมึงทุกคนก็ต้องฟังกูรู้ไหม !...
                ใครไม่ฟังกูมันต้องตาย ช่วยกูด้วย ช่วยด้วย !...
                กูร้อน  เจ็บ กูยอมแล้ว..กูสำนึกแล้ว !..

ท้าวอเวจีฯ :        รีบพูดต่อ กล่าวความในใจเดี๋ยวนี้ เจ้าจงพูดต่อเดี๋ยวนี้ เสียงดังดัง !...
วิญญาณบาป :     ความแค้นนั้นไม่เคยสิ้นสุดในหัวใจ ตามทวงไปด้วยแรงแห่งกรรม เพราะชีวิตทุกข์ทรมานสะท้านสั่น บาปเวรกรรมนั้นไม่พ้นสักที..
                            *  อยากจะตามทวงเอาชีวี ให้ชำระความเคียดแค้นลงได้ เหตุเพราะเห็นกงจักรเป็นดอกไม้ ตกนรกไปต้องเจ็บเพียงนี้...
                            **  อยากจะพบพระธรรมต้องทำอย่างไร  อยากจะรู้ใช้กรรมอีกนานเท่าไหร่ กว่าจะพบหนทาง รออีกนานเพื่อเริ่มต้นใหม่ หวังสำนึกไม่สายเกินไป เพื่อหมดเวรเสียที...
                            รู้สำนึกว่าความผิดบาปที่ได้ทำ  คอยจองจำจองเวรเรื่อยมา  ขอชดใช้หนี้เวรกรรมด้วยหยาดน้ำตา ให้บัวพ้นน้ำโคลนตมสักที..            (*/**/**)

                                                                                               ชื่อเพลง :  คนบาปไม่พ้นนรก
                                                                                                ทำนอง :   บัวไม่พ้นน้ำ
............................................................................................................................................................

ท้าวอเวจีฯ :  ความในใจของเจ้าจบหรือยัง ?...
วิญญาณบาป :  จบแล้ว...
ท้าวอเวจีฯ :  ดี..ขุนพลวัวนำวิญญาณบาปกลับคืนสู่นรกอเวจี...
วิญญาณบาป :  กูไม่ไป กูไม่ไป !!!...
ท้าวอเวจีฯ :   ยังมีคนไม่ชื่อ อย่าได้คิดว่านรกไม่มีจริง  หารู้ไม่นรกมีอยู่บนโลกมนุษย์ตั้งนานแล้ว คนในปัจจุบันนี้เลวทรามสามานย์ พญายมทั้งสิบขุมรับไม่ไหว ต้องส่งไปยังแดนของเรา
"มหาอเวจีนรก"...
                      มหาอเวจีนรกกว้างใหญ่ไพศาลยินดีต้อนรับ  เห็นพระโอวาทแล้วใช่ไหม กงกรรมกงเกวียนหมุนเวียนเรื่อยไป ใครก่อกรรมใดต้องตกไปชดใช้กรรม..
                       เจ้าวิญญาณบาป ก่อกรรมทำเข็ญชั่วช้าสามานย์ วันนี้เรานำมาเป็นประจักษ์ แต่ทว่าเจ้าวิญญาณบาปก็ต้องกลับไปรับกรรมอีกเหมือนเดิม..
                        ปัจจุบันนรกสิบขุมไม่รับแล้ว อเวจีอย่างเดียว !...
                       ใครที่ยังไม่เชื่อหนี้บาปเวรกรรม ออกมาเลย เราจะพาไปยังแดนของเรา อเวจีรุ่มร้อน มืดมิดไร้ความหวัง ต่อให้หวังอย่างไรก็ไม่มีทางรอด ถึงจะรอดไปก็ต้องถูกสูบลงธรณี ทุกข์ทรมานเหมือนเดิม...
                       ผู้ที่ได้รับธรรมแล้วไม่ได้อยู่ในการดูแลของเรา แต่ทว่าหากบำเพ็ญไม่ดีก็ต้องติดคุกสวรรค์เช่นกัน  ยังมีคนที่ยังไม่รับธรรม ต้องถูกจองจำจากบัญชีกรรมของเราแน่นอน..
                       สาธุชนทั้งหลายจงฟังให้ดี !...
                       เรื่องกรรมเป็นเรื่องละเอียดอ่อน "กรรม" คือการกระทำออกมาจากกิเลสความคิดของเรา  นั่นเอง...
                       ผลที่ได้รับก็คือวิบากกรรม ไม่เชื่อกรรมก็ยากที่จะสำเร็จเป็นพระพุทธะ สาธุชนทั้งหลายจงสำนึกขอขมาด้วยจิตที่แท้จริง พระแม่องค์ธรรมให้โอกาสทุกคนครั้งสุดท้ายยุคสามปลายกัป...
                       ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้พบธรรมะ...
                       อย่าได้เย่อหยิ่ง จองหอง อวดดี...
                       อย่าได้คิดว่าพ้นจากการควบคุมของเราแล้ว...
                       สาธุชนทั้งหลาย  ยินดีที่จะร่วมกันสร้างบุญกุศลให้กับเจ้ากรรมนายเวรหรือไม่ ?..(ยินดีค่ะ/ครับ)
                      พวกเจ้าวิญญาณบาปทั้งหลายได้ยินแล้วใช่ไหม !...
                      พวกเขายินดีสร้างบุญกุศลให้พวกเจ้าทั้งหลาย เราหวังว่ากลับไปแล้ว  สาธุชนทั้งหลายจะไม่ลืมคำของตนเอง รับธรรมแล้วก็ยังมีหนี้บาปเวรกรรมอยู่ ต้องชดใช้ด้วยบุญกุศล...
                       เราขอผูกบุญสัมพันธ์แต่เพียงเท่านี้ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าวิญญาณบาปทีมาเป็นประจักษ์หลักฐานในวันนี้จะเป็นแรงทำให้สาธุชนทั้งหลายมีแรงที่จะเป็นคนดีสร้างบุญกุศลที่แท้จริง...
                        หวังว่าจะนำคำทุกคำของวิญญาณบาปที่สารภาพไปขบคิดแล้วฉุดช่วยผู้ที่มีบุญสัมพันธ์ขึ้นสู่เรือธรรมนาวา...



โลกกำลังไม่มีสันติสุข ไม่มีสันติภาพ
เพราะว่าไม่มีธรรมะครองโลก
เราจะต้องจัดการทุกอย่าง ให้ธรรมะครองโลก            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น