วันอาทิตย์ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2554

แปรวิกฤติ..เป็นโอกาส

พระโอวาทพระพุทธจี้กง


           ทุกๆคนมีเคราะห์ภัยซึ่งเกิดจาก "กรรม"
           กรรมคือการกระทำ ถ้าทำดีก็เป็นคนที่มีเคราะห์ดี ทำไม่ดีก็เป็นคนที่เคราะห์ร้าย...
           ศิษย์อยากเคราะห์ร้ายหรือเคราะห์ดี ?... (เคราะห์ดี) แล้วเราส่งเคราะห์ดีให้ผู้อื่นหรือยัง ?...
           เราต้องขยันส่งเคราะห์ดีไปให้ผู้อื่นถึงจะได้รับผลดีตอบ
           ถ้าเราเปิดไฟให้คนอื่น เราก็สว่าง ถ้าเราไม่เปิดไฟให้คนอื่น เพราะเราตระหนี่ถี่เหนียว ก็ไม่มีใครได้รับความสว่าง...
            เมื่อเราช่วยเหลือผู้อื่น  ผู้อื่นก็จะช่วยเราเป็นการไม่เอาเปรียบกัน เวลาช่วยผู้อื่นแล้วจำเป็นต้องได้รับผลดีตอบมาไหม ?...   (ไม่จำเป็น)    ถ้าเราช่วยเขา แต่เขาให้ร้ายเรา เราต้องรู้จักวางเฉย  เพราะว่าที่เราให้ไป  เราไม่ต้องการผลตอบแทน หากเราไม่ได้ผลตอบแทนแล้วเสียใจ แสดงว่าเราหวัง !...
             ฉะนั้น  จึงไม่ควรที่หวังอะไรเลย  ความหวังนั้นมีไว้สำหรับหวังกับตัวเองเท่านั้น  ไม่สามารถหวังกับผู้อื่นได้ !...
             บางคนวาดหวังไว้สวยงาม แต่ไปวาดให้กับคนอื่น พอเขาไม่ทำเราก็รู้สึกเสียใจ แล้วก็ต่อว่า และเปลี่ยนความวาดหวังอันนี้ให้กลายเป็น ความแค้น...แค้นต้องชำระ !...
             ถ้ามัวแต่ชำระก็จะแค้นกันไม่จบไม่สิ้น ใช่หรือไม่ ?...

             การที่เจ้าได้รับเคราะห์ภัย อย่าหนี !..  เพราะยิ่งวิ่งหนีเคราะห์ก็ยิ่งวิ่งตาม หันหน้าไปสู้กับความจริง  ยอมรับเคราะห์กรรมนั้นเข้ามาสู่ตน หมดแล้วจะได้หมดกัน ดีหรือไม่ ?...
             เจ้าไปตีเขาไว้  ไม่ให้เขามาตีคืนได้หรือ ?...
             ร่างกายเราแก่เฒ่าชราแล้ว จะห้ามไม่ให้ป่วยไข้ได้หรือ ?...
             มีแต่สิ่งเดียวที่มีค่าที่สุดคือ  ก่อนที่เราจะเสียชีวิตทำทุกเวลาทุกนาทีให้มีคุณค่า...
             หนึ่งวันที่เราสั่งสมความดีทำสิ่งที่มีประโยชน์ ก็คือหนึ่งวันที่มีค่า สองวันที่เราสร้างความดีทำสิ่งที่มีประโยชน์ ชีวิตเราก็มีค่า !...
             หากว่าทุกวันไม่สร้างคุณงามความดีใดๆ เลย  ปล่อยชีวิตผ่านไปวันๆ ถึงแม้มีอายุอยู่ร้อยปี  ก็เป็นร้อยปีที่ไม่มีค่า ใช่หรือไม่ ?...
             เคราะห์ภัย ความทุกข์ยากต่างๆ ได้ทวีสูงขึ้น  การทดสอบต่างๆ นานา วิ่งเข้าใส่ผู้บำเพ็ญแล้ว...
             แต่อย่าเข้าใจผิด บางสิ่งเป็นเคราะห์กรรมส่วนตัว อย่าเหมาว่าเป็นการทดสอบเสียหมด !...
             หากว่าเจ้าเป็น คนจริง  ศิษย์จะได้มีโอกาสเป็นพุทธะในวันข้างหน้า อย่าขอให้เคราะห์ร้ายเบา   ยิ่งหนัก ยิ่งทวี ยิ่งทดสอบคนเท่าไร...ศิษย์จะเหลือกิเลสน้อยลง
             ผู้เคราะห์ร้ายที่เข้ามาจะทำให้เรากลายเป็นพุทธะได้เร็วขึ้นถ้าศิษย์ทำได้ เป็นพุทธะเดินดินเหมือนอาจารย์ก็ดี มีชีวิตอยู่ แต่อยู่อย่างพุทธะ
             หากว่ายังใช้ตาหูปากมาก ก็ไปพยายามบำเพ็ญหน่อยนะ...


บาปกรรม
ไม่มีอะไรเกินไปกว่าการทำตามกิเลสในใจ
เคราะห์กรรม
ไม่มีอะไรเกินไปกว่าการพูดนินทาว่าร้าย


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น